ยินดีต้อนรับสู่ www.ndath.com สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)  ...ขอบคุณทุกท่าน ที่มาเยี่ยมชม..!
เครือข่าย
พันธมิตร
สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) : สนธ.
Niti Dhammahansa Association (Thailand) : NDA

        สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ย่อว่า "สนธ." ภาษาอังกฤษว่า Niti Dhammahansa Association (Thailand) ย่อว่า "NDA" จัดตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของคณะบุคคลผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตอาสาและเจตนาอันเป็นบุญกุศลสาธารณะ ใช้หลักแนวคิดนิติปรัชญา เพื่อบำเพ็ญ " นิติธรรมวิทยาทาน " ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย ศาสนา สังคม และท่องเที่ยว ประกอบด้วย นักวิชาการทางด้านศาสนาและปรัชญา ทนายความ พร้อมด้วยนักวิชาการและนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ และ ผู้ร่วม "อุดมการณ์จิตอาสาเสียสละ" ที่สนใจศึกษาเรียนรู้วิชาการด้านกฎหมาย ได้รวมตัวกันจัดตั้ง "สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)  โดยได้รับทุนอุปถัมภ์การดำเนินงาน จากบริษัทในเครือธรรมหรรษาและบางกอกไทย เซ็นเตอร์  และได้รับจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสมาคม มีฐานะเป็น "นิติบุคคล"  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ทะเบียนเลขที่ 16/2564 ตามประกาศนายทะเบียนสมาคมจังหวัดปทุมธานี เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564
      
วัตถุประสงค์ของสมาคม

    (1)    ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและให้ความรู้ด้านกฎหมาย เช่น รัฐธรรมนูญ กฎหมายมหาชน กฎหมายอาญา 
            กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอื่นๆ และช่วยเหลือประชาชนเหยื่ออาชญากรรมและอยุติธรรม
    (2)    ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและให้ความรู้ด้านศาสนา การปฏิบัติธรรม อุปถัมภ์บำรุงวัดหรือพุทธสถาน
            จัดกิจกรรมส่งเสริมเชิดชูเกียรติคุณ เผยแพร่ ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาล
    (3)    ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและให้ความรู้ด้านสังคม เช่น สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมศึกษา รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์
             มนุษยศาสตร์ การบริหารจัดการ เพื่อพัฒนาวิชาการและองค์ความรู้ด้านสังคม
    (4)    ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ
    (5)    ส่งเสริมการผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์และสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ยูทูป ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
    (6)    ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา องค์กรการกุศล หรือเอกชน จัดโครงการ    
            ฝึกอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน การให้ความรู้วิชาการด้านต่างๆ และการพัฒนาวิชาชีพต่างๆ
    (7)    ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อบำเพ็ญสาธารณกุศล สาธารณประโยชน์ และสังคมสงเคราะห์
    (8)    ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
    (9)    มิได้กระทำการเรี่ยไรเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ
            พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 แต่อย่างใด
    (10)  รายได้จากการดำเนินกิจการหรือสมาชิกของสมาคมจะไม่ใช้เป็นค่าตอบแทน ค่าจ้าง เงินเดือนให้กับ          
            กรรมการหรือสมาชิกของสมาคม เว้นแต่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมโครงการตามวัตถุประสงค์

        ตามบันทึกรายงานการประชุมจัดตั้งสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)  เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00-17.30 น. ระเบียบวาระที่ 3  :  เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) ได้ระบุถึงหลักการและเหตุผลของการจัดตั้งสมาคม สนธ. ไว้น่าสนใจเก็บไว้เป็นอนุสรณ์แห่งประวัติความเป็นมาของการจัดตั้งสมาคม สนธ. ดังต่อไปนี้... 
  
        "ประธาน  แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงหลักการและเหตุผลของการจัดตั้งสมาคมว่า"ก่อนจัดตั้งสมาคม สนธ.มีพัฒนาการมาจากคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาวิจัยพัฒนาศาสนาและกฎหมาย (สศก.) มูลนิธิศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ อินเดีย-ไทย (India-Thai International Meditation Centre Trust : ITT) โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.นิติกานต์  ธรรมหรรษากุล เป็นประธานอำนวยการ และกรรมการสัญชาติอินเดีย 3 คน และสัญชาติไทย 5 รูป/คน จดทะเบียนเป็น "นิติบุคคล (Juristic Person)" ตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรการกุศลท้องถิ่น พุทธคยา เมืองคยา ประเทศอินเดีย โดย สศก. ขึ้นตรงกับมูลธินิ ITT ในฐานะเป็นหน่วยงานในสังกัดภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการมูลนิธิ ITT ร่วมกับ มูลนิธิวัดไทยโพธิวิหาร (Wat Thai Bodhi Vihara Trust : WTB)  และนิติบุคคลจดทะเบียนประเทศไทย บริษัท ธรรมหรรษาทัวร์ แอนด์ แทรเวล จำกัด, บริษัท บางกอกไทย เซ็นเตอร์ จำกัด ในอุปถัมภ์ของ รองศาสตราจารย์ ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล  ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือธรรมหรรษา  ต่อมาคณะกรรมการ สศก. ได้พิจารณาว่าควรยกฐานะ จัดตั้งเป็น "สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)" จดทะเบียนเป็น "นิติบุคคล" ในประเทศไทย"
        ประธานแจ้งว่า การจัดตั้งสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) อีกเหตุผลเกิดจากการรวมตัวกันของนักวิชาการอิสระทางด้านศาสนาปรัชญา พร้อมด้วยนักวิชาการและนักศึกษาวิชากฎหมาย ทนายความ เมื่อจดทะเบียนสมาคมจากทางราชการแล้ว จะมีภารกิจ (Mission) ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ (Objective) ของสมาคม โดยจัดแบ่งส่วนงานภายในด้านบริหารกิจการตามภารกิจหลักของสมาคม ออกเป็น 4 ศูนย์ ดังนี้
    1.    ศูนย์การศึกษาวิจัยกฎหมาย   มีคณะกรรมการบริหารศูนย์ ดำเนินงานบริหารจัดการตามภารกิจ
    2.    ศูนย์การศึกษาวิจัยศาสนา     มีคณะกรรมการบริหารศูนย์ ดำเนินงานบริหารจัดการตามภารกิจ
    3.    ศูนย์การศึกษาวิจัยสังคม       มีคณะกรรมการบริหารศูนย์ ดำเนินงานบริหารจัดการตามภารกิจ
    4.    ศูนย์การศึกษาวิจัยท่องเที่ยว  มีคณะกรรมการบริหารศูนย์ ดำเนินงานบริหารจัดการตามภารกิจ
และจัดแบ่งส่วนงานภายในด้านบริหารกิจการประจำสำนักงานของสมาคม ออกเป็น 5 กองงาน ดังนี้
    1.    กองงานเลขาธิการ        มีเลขาธิการเป็นหัวหน้าบริหารกิจการประจำและกำกับดูแลรับผิดชอบ
    2.    กองงานเหรัญญิก         มีเหรัญญิกเป็นหัวหน้าบริหารกิจการประจำและกำกับดูแลรับผิดชอบ
    3.    กองงานทะเบียน          มีนายทะเบียนเป็นหัวหน้าบริหารกิจการประจำและกำกับดูแลรับผิดชอบ
    4.    กองงานปฏิคม             มีปฏิคมเป็นหัวหน้าบริหารกิจการประจำและกำกับดูแลรับผิดชอบ
    5.    กองงานประชาสัมพันธ์  มีประชาสัมพันธ์เป็นหัวหน้าบริหารกิจการประจำและกำกับดูแลรับผิดชอบ

        ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมจะแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์ต่างๆ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการ, กรรมการ, เลขานุการ และตำแหน่งอื่นๆ ที่เห็นสมควรกับภารกิจของศูนย์ต่างๆ ฯลฯ
        ในการดำเนินงานบริหารกิจการของสมาคมต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1, ลักษณะ 2, หมวด 2 นิติบุคคล, ส่วนที่ 2 สมาคม, ตั้งแต่มาตรา 78 - มาตรา 109, มาตรา ๗๘ บัญญัติไว้ว่า "การก่อตั้งสมาคมเพื่อกระทำการใดๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน ต้องมีข้อบังคับและจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้" และมาตรา ๗๙ บัญญัติไว้ว่า "ข้อบังคับของสมาคมอย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (6) ข้อกำหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการของสมาคม ได้แก่ จำนวนกรรมการ การตั้งกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ และการประชุมของคณะกรรมการ" ดังนั้น การดำเนินงานบริหารกิจการของสมาคมต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อบังคับของสมาคมฯ..."
(บันทึกรายงานการประชุมจัดตั้งสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) : 22 ต.ค. 2564)

คณะกรรมการสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)
Board of Niti Dhammahansa Association (Thailand)
(เนื่องจากกรรมการสมาคมบางท่านลาออกจากตำแหน่ง  อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตามข้อบังคับฯ)

            1.    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวัช  นุกูลกิจ  (ทนายความ/อาจารย์)            นายกอาวุโส
            2.    รองศาสตราจารย์ ดร.นิติกานต์  ธรรมหรรษากุล                              นายกสมาคม
            3.    ทนาย ธนดล  เพชรบุรีกุล  (ทนายความ)                                      อุปนายกสมาคม
            4.    ดร.กำธร  เพียเอีย                                                                   เลขาธิการ
            5.    นายนาวิน  จูบิดา                                                                    รองเลขาธิการ
            6.    พ.ต.ท.หญิง สุวิมล  ธรรมหรรษากุล                                             เหรัญญิก
            7.    นางสาวอารีรักษ์  แซ่อึ้ง                                                            นายทะเบียน
            8.    นางสาวเพ็ญนภา  ศิริจันทร์                                                        ปฏิคม
            9.    นายชูพงษ์  อัจจาธร                                                                 ประชาสัมพันธ์
            10.  นายมานิตย์  รัตนะแก่นจันทร์                                                      กรรมการ
            11.  นางขวัญใจ  ตรีทรัพย์                                                               กรรมการ

***********************








free counters
แผนภูมิการบริหารองค์ : สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)
ข่าวสารสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)  :  ภารกิจการช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย

2564 :  การช่วยเหลือบริษัททัวร์เรียกร้องเงินค่าทัวร์คืนจากหัวหน้าคณะทัวร์/ลูกทัวร์
                - ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) มอบหมายให้ ทนายธนดล  เพชรบุรีกุล  อุปนายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัททัวร์ และทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่ง ณ ศาลแพ่งธนบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ 875/2564 ฟ้องจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 13 คน ฐานผิดสัญญา ผลการดำเนินคดีอันเป็นสิ้นสุด ในชั้นไกล่เกลี่ย โดยกรรมการผู้มีอำนาจโจทก์ ทนายโจกท์ และจำเลยที่ 1 มาศาล โดยสรุป : ศาลพิจารณาสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว เห็นว่าไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปในวันนี้ (4 สิงหาคม 2565) อนึ่ง ทนายโจทก์แถลงขอคืนค่าขึ้นศาลเป็นกรณีพิเศษ ศาลอนุญาตและได้สั่งคืนไว้ในคำพิพากษาตามยอมแล้ว ทางสมาคมและผู้เสียหายขอขอบคุณท่านทนายธนดล เพชรบุรีกุล และดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ที่ช่วยติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานติดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเป็นธุรการในกระบวนการดำเนินคดีในนั้นศาลจนคดีเป็นอันยุติสิ้นสุด "ศาลพิศากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาด" (ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2565)
                - ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย)นายกสมาคม มอบหมายให้ ทนายธนดล  เพชรบุรีกุล  อุปนายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัททัวร์ และทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่ง ณ ศาลแพ่งธนบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ 876/2564 ฟ้องจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 10 คน ฐานผิดสัญญา ผลการดำเนินคดีอันเป็นสิ้นสุด ในชั้นไกล่เกลี่ย โดยกรรมการผู้มีอำนาจโจทก์ ทนายโจกท์ และจำเลยที่ 1 มาศาล โดยสรุป : ศาลพิจารณาสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว เห็นว่าไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปในวันนี้ (4 สิงหาคม 2565) อนึ่ง ทนายโจทก์แถลงขอคืนค่าขึ้นศาลเป็นกรณีพิเศษ ศาลอนุญาตและได้สั่งคืนไว้ในคำพิพากษาตามยอมแล้ว ทางสมาคมและผู้เสียหายขอขอบคุณท่านทนายธนดล เพชรบุรีกุล และดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ที่ช่วยติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานติดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเป็นธุรการในกระบวนการดำเนินคดีในนั้นศาลจนคดีเป็นอันยุติสิ้นสุด "ศาลพิศากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาด" (ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2565)


             
2565 :  การช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคแจ้งความดำเนินคดี ฐานยักยอกทรัพย์ และเรียกร้องเงินค่าทัวร์คืนจากหัวหน้าคณะทัวร์
                - เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565  ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก แม่ชี ณ. ผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปราณบุรี ในสังกัด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ บช.ภ.7  ได้ร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นาย ส. (นามสมมุติ) กับ นางสาว พ. (นามสมมุติ) ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้บุคคลทั้งสองได้รับการลงโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และนายกสมาคมได้มอบหมายงานให้ ดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานต่ดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมต่อไป
                - เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565  ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก แม่ชี ณ. ผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรไทรน้อย ในสังกัด ภ.จว.นนทบุรี บช.ภ.1  ได้ร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นาย ส. (นามสมมุติ) กับ นางสาว พ. (นามสมมุติ) ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้บุคคลทั้งสองได้รับการลงโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และนายกสมาคมได้มอบหมายงานให้ ดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานต่ดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมต่อไป
                - เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ได้พา นาง ว. ผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน ในสังกัด บก.น.9 บช.น  ได้ร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นาย ส. (นามสมมุติ) ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
                - เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล (ดร.เบิร์ต) นายกสมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก (1) นาง ป. (2) นางสาว ฉ. (3) นางสาว ผ. และ (4) นาง ว. ผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาบบางยี่ขัน ในสังกัด บก.น.7 บช.น   ได้ร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นาย ส. (นามสมมุติ) ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และนายกสมาคมได้มอบหมายงานให้ ดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานต่ดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมต่อไป
                โดยสรุป : คดียังอยู่ในกระบวนการดำเนินคดี เป็นคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง โดยผู้เสียหายได้ฟ้องคดีแพ่ง ณ ศาลแพ่งธนบุรี ต่อมาได้ถอนฟ้องคดีแพ่งแล้ว และต้องการดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป

2565 :  การช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคแจ้งความดำเนินคดี ฐานฉ้อโกง และเรียกร้องเงินค่าทัวร์คืนจากผู้จัดทัวร์นำเที่ยว
                - เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 สมาคมนิติธรรมหรรษา (ประเทศไทย) โดย ดร.นิติกานต์ ธรรมหรรษากุล นายกสมาคม และ ดร.กำธร  เพียเอีย เลขาธิการสมาคม ได้พาผู้เสียหายจำนวน  5 คน คือ (1) นาง ป. (2) นางสาว ส. (3) นาง ก. (4) นาง ศ. และ (5) นาย ว. ผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครพระโขนง ในสังกัด บก.น.5 บช.น  ได้ร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นาย พ. (นามสมมุติ) ในความผิดฐานฉ้อโกง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และนายกสมาคมได้มอบหมายงานให้ ดร.กำธร เพียเอีย เลขาธิการสมาคม และ นายนาวิน  จูบิดา  รองเลขาธิการสมาคม ติตตามผลการดำเนินคดีและประสานงานต่ดต่อกับผู้เสียหายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมต่อไป
หมายเหตุ / ข้อมูลเฉพาะ  :   ณ วันที่  1  สิงหาคม  2567
เนื่องจากกรรมการสมาคมบางท่านลาออกจากตำแหน่ง  อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงฯ ตามข้อบังคับสมาคม)